ประเภทของเนื้อครีมบำรุงผิว มีอะไรบ้าง? และแตกต่างกันยังไง

วันนี้บริษัทกรีนเทคไบโอแลบ จำกัด จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับประเภทของเนื้อครีมบำรุงผิวกันนะคะ ว่าครีมบำรุงที่เราใช้กันอยู่แต่ละตัวนั้น แตกต่างกันยังไง
ประเภทครีม บำรุงผิว โลชั่นต่างๆอาจเป็นที่คุ้นเคยกับหลายๆคนอยู่บ้าง ถือเป็นเครื่องประทินผิวที่มีมาช้านาน ครีมบำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า ผิวกาย หรือครีมบำรุงเฉพาะส่วน อย่างครีมทามือ ทาส้นเท้า ครีมบำรุงตัว ครีมบำรุงผิวหน้า หรือแม้แต่ครีมบำรุงเล็บ ต่างก็มีความแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อผลิตภัณฑ์ซึ่งบางทีเราอาจเรียกรวมๆกันว่าครีม แต่แท้จริงแล้วมันอาจจะไม่ใช่ครีมก็ได้ โดยหลักๆแล้ว เราสามารถแบ่งเนื้อผลิตภัณฑ์ออกได้เป็น 6 ประเภท เราลองมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

Body Butter ซึ่งก็คือครีมเนื้อบัตเตอร์ที่มักจะมาในรูปแบบกระปุกเพราะมีความเข้มข้นสูง เนื่องจากมีประมาณของไขมัน หรือน้ำมันเยอะกว่าครีม ครีมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ซึงลงสู่ผิวได้ช้ากว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ปัจจุบันจึงมีการเพิ่มสารบำรุงต่างๆลงในเนื้อครีมมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการบำรุงผิว ครีมเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หรือป้องกันการเกิดริ้วรอย เพราะด้วยเนื้อสัมผัสที่หนา และส่วนประกอบของน้ำมันที่เยอะนี่เองจึงทำให้ครีมมีความชุ่มชื้นมากกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้ามัน ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เนื้อครีม เพราะเนื้อสัมผัสที่หนาเกินไปอาจทำให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดปัญหาสิวขึ้นได้

ครีม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ซึมลงสู่ผิวได้ช้ากว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ปัจจุบันจึงมีการเพิ่มสารบำรุงต่างๆลงในเนื้อครีมมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการบำรุงผิว ครีมเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวหนังลอกจากอากาศเย็นจัด หรือป้องกันการเกิดริ้วรอย เพราะด้วยเนื้อสัมผัสที่หนา และส่วนประกอบของน้ำมันที่เยอะนี่เองจึงทำให้ครีมมีความชุ่มชื้นมากกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้ามัน ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เนื้อครีม เพราะเนื้อสัมผัสที่หนาเกินไปอาจทำให้รูขุมขนของเราอุดตัน และเกิดปัญหาสิวขึ้นได้นะคะ

โลชั่นเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวผสม ถึงผิวค่อนไปทางมัน แต่สำหรับการทาหน้าผู้ที่มีผิวมันก็ต้องระวังปัญหาการอุดตันรูขุมขนอยู่บ้างเหมือนกันนะคะ เพราะแม้ว่าส่วนประกอบหลักของโลชั่นจะเป็นน้ำแต่ก็มีน้ำมันเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย จึงอาจทำให้สิวขึ้นได้ สำหรับผิวผสมโลชั่นถือว่าเหมาะมากที่จะทำให้การบำรุงผิวนั้นเป็นไปอย่างดี เพราะโลชั่นสามารถบำรุงผิวได้อย่างพอดี ไม่แห้งไป ไม่เหนียว

สำหรับเซรั่ม จะมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากครีม และโลชั่นโดยสิ้นเชิงนะคะ เซรั่มจะมีเนื้อใส ลักษณะอาจคล้ายน้ำ แต่มีความเหนียวอยู่ในนั้น เนื้อเซรั่มส่วนใหญ่จะบางเบา ซึมเร็ว ไม่ทิ้งคราบไว้บนผิว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ว่าจะมีสูตรในการผลิตอย่างไร. อาจจะทั้งเซรั่มที่เหมาะกับผู้มีผิวมัน ผิวแห้ง เซรั่มเพื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เซรั่มที่เน้นเรื่องของการซ่อมแซมผิว หรือเซรั่มที่เน้นเรื่องการลดเรือนริ้วรอย ซึ่งบางครั้งการใช้เซรั่มแค่ 3-4 หยด อาจจะเท่ากับการใช้ครีมหรือโลชั่นเต็มหนึ่งฝ่ามือกันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ก็ยังมี Eye Gel ที่เป็นอีกหนึ่งตัวที่คนนิยมกันมาก เพราะรอบดวงตามีลักษณะที่ละเอียดอ่อน เกิดริ้วรอยได้ง่าย การใช้เจลซึ่งมีความชุ่มชื้นสูงจึงสามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี

สำหรับการใช้อีมัลชั่นนั้น นิยมใช้หลังซีรั่ม เพราะมีเนื้อสัมผัสที่หนากว่าซีรั่ม และเหมาะสำหรับผู้มีผิวผสม-ผิวมัน อีมัลชั่นสามารถบำรุงผิวชั้นนอกได้เป็นอย่างดี ซึมเร็วจึงสามารถนำมาใช้เป็น Day Cream ได้เลยค่ะ

ประโยชน์ของเอสเซ้นส์มักเน้นไปที่การฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวแข็งแรง ส่วนผสมหลักของเอสเซ้นส์จะเป็นน้ำ คือผลิตภัณฑ์ที่เป็น Water Base แต่มีความเข้มข้นสูง เอสเซ้นส์จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่แพ้น้ำมันในครีมหรือโลชั่น แต่ในขณะเดียวกันสำหรับผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นผลิตภัณฑ์ประเภทเอสเซ้นส์ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นะคะ. แต่เราสามารถใช้เอสเซนส์ได้ทุกวันไม่ว่าเช้าหรือค่ำ และสามารถทาผลิตภัณฑ์อื่นตามได้ทันทีเพราะเอสเซ้นส์นั้นซึบซาบเร็ว นอกจากนี้เอสเซนส์ยังเป็นเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิวอีกด้วย

ที่มา : https://www.facebook.com/Coursemetic/photos/a.1114433398605527/2946219798760202/

http://skincareblog.shopup2.com

www.revomed.co.th

สอบถามเพิ่มเติม